นักพัฒนาหลักสูตร
จอร์น
ดิวอี้
แนวคิด เรื่องการปรับตัว จอห์น ดิวอี้ ตระหนักเรื่อง “การปรับตัว”
ให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญและจะต้องนำไปใช้เป็นแนวคิดของการจัดการศึกษา
หรือเป็นแก่นแห่งการศึกษา มนุษย์ต้องเผชิญกับปัญหา จึงต้องฝึกให้มนุษย์แก้ปัญหา
เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากการกระทำ ฝึกปฏิบัติ ฝึกคิด ฝึกลงมือทำ
ฝึกทักษะกระบวนการต่างๆ ประสบการณ์ที่มนุษย์พบหรือเผชิญ มีอยู่ 2 ประเภท ดังนี้
1.ขั้นปฐมภูมิ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เป็นความรู้ หรือยังไม่ได้คิดแบบไตร่ตรอง
2.ขั้นทุติยภูมิ คือที่เป็นความรู้ ได้ผ่านการคิดไตร่ตรอง ประสบการณ์ขั้นแรกจะเป็นรากฐานของขั้นที่สอง
จอร์น ดิวอี้ จึงต้องอาศัยแรงกระตุ้น 4 อย่าง
1.แรงกระตุ้นทางสังคม
2.แรงกระตุ้นทางสร้างสรรค์
3.แรงกระตุ้นทางการค้นคว้าทดลอง
4.แรงกระตุ้นทางการแสดงออกด้วยคำพูด การกระทำ และการศิลปะ
ดั้งนั้น แรงกระตุ้นทั้ง 4
อย่างนี้ ผู้เรียนมีความพร้อม
และจะนำออกมาใช้ตามขั้นตอนของพัฒนาการของตน
ชิลเบอร์เมน
ชิลเบอร์เมน (Silberman,1970:9)
สิ่งที่นักการศึกษาจะต้องตระหนักให้มากก็คือ วิธีการที่เขาสอนและการกระทำของพวกเขามีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่เขาสอน นั่นก็คือวิถีทางที่เรากระทำกับสิ่งต่างๆ
จะสร้างค่านิยมได้ตรงกว่าและมีประสิทธิผลมากกว่าที่เราได้สอนหรือพูดคุยกับเขาโดยตรงการปฏิบัติการในเชิงการบริหารที่มีลักษณะเฉพาะ
บรูเนอร์
บรูเนอร์ กล่าวว่า คนทุกคนมีพัฒนาการทางความรู้ความเข้าใจ หรือการรู้คิด
โดยผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Acting, Imagine และ Symbolizing ซึ่งอยู่ใน
ขั้นพัฒนาการทางปัญญาคือ Enactive, Iconic และ Symbolic
representation ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นตลอดชีวิต มิใช่เกิดขึ้นช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น
บรูเนอร์เห็นด้วยกับ Piaget ที่ว่า
มนุษย์เรามีโครงสร้างทางสติปัญญา (Cognitive structure) มาตั้งแต่เกิดในวัยเด็กจะมีโครงสร้างทางสติปัญญาที่ไม่ซับซ้อน
เมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมจะทำให้โครงสร้างทางสติปัญญาขยายและซับซ้อนเพิ่มขึ้น
หน้าที่ของครูคือ
การจัดสภาพสิ่งแวดล้อมที่ช่วยเอื้อต่อการขยายโครงสร้างทางสติปัญญาของผู้เรียน
ทฤษฎีการเรียนรู้เกิดจากแนวคิดของนักปรัชญาหรือปรัชญาการศึกษา แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม1.กลุ่มสารถนิยม2.กลุ่มสัจนิยม
3.กลุ่มพิพัฒนาการนิยม
4.กลุ่มปฏิรูปนิยม
5.กลุ่มอัถภาวนิยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น